|
|
|
|
|
|
|
องค์การสหประชาชาติ
เป็นองค์การระหว่างประเทศระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1945 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่
2 ยุติลง โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
มีสมาชิกประกอบด้วยประเทศเอกราชต่างๆ จากทุกภูมิภาคของโลก จากจำนวนสมาชิกก่อตั้ง
51 ประเทศในปี ค.ศ. 1945 ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตูวาลู ( Tuvalu ) เข้าเป็นสมาชิกเมื่อวันที่
5 กันยายน ค.ศ. 2000 เป็นอันดับที่
189
สวิตเซอร์แลนด์ เข้าเป็นสมาชิกเมื่อวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 2002 เป็นอันดับที่ 190
ติมอร์ตะวันออก เข้าเป็นสมาชิกเมื่อวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 2002 เป็นอันดับที่ 191
|
|
|
วัตถุประสงค์ขององค์การสหประชาชาติ
|
|
|
องค์การสหประชาชาติได้รับการสถาปนาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 1945
เมื่อกฎบัตรสหประชาชาติมีผลบังคับใช้ กฎบัตรสหประชาชาติได้กำหนดวัตถุประสงค์ขององค์การสหประชาชาติไว้
ดังนี้
|
|
|
1.
|
เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติ และ
ความมั่นคงระหว่างประเทศ
|
2.
|
เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างประชาชาติทั้งปวง โดยยึดการเคารพต่อหลักการแห่งสิทธิอันเท่าเทียมกัน
|
3.
|
เพื่อให้บรรลุถึงความร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศทางเศรษฐกิจ
สังคม วัฒนธรรม หรือ มนุษยธรรม และ การส่งเสริมสนับสนุนการเคารพต่อสิทธิมนุษยชน
และ เสรีภาพขั้นมูลพื้นฐานสำหรับทุกคนโดยไม่เลือกปฎิบัติในเรื่องเชื้อชาติ
เพศ ภาษา หรือ ศาสนา
|
4.
|
เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับการประสานงานของประชาชาติทั้งหลายให้กลมกลืนกันในอันที่จะบรรลุจุดหมายปลายทางร่วมกัน
|
|
|
|
กล่าวได้ว่าองค์การสหประชาชาติก่อตั้งขึ้นมาด้วย
เจตนารมณ์ที่จะขจัดภัยพิบัติอันเกิดจากสงคราม ประกันสิทธิมนุษยชน ตลอดจนส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมของมวลมนุษยชาติ
|
|
|
|
|
|
หลักการขององค์การสหประชาชาติ
|
|
|
เพื่อให้องค์การสหประชาชาติสามารถดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
กฎบัตรสหประชาชาติได้วางหลักการที่องค์การสหประชาชาติ และ ประเทศสมาชิกจะพึงยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินการระหว่างประเทศ
ดังนี้
|
|
|
1.
|
หลักความเสมอภาคในอธิปไตย รัฐย่อมมีอำนาจอธิปไตยโดยสมบูรณ์
|
2.
|
หลักความมั่นคงร่วมกัน เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ และ ความมั่นคงร่วมกัน
ดำเนินมาตรการร่วมกัน เพื่อป้องกัน และขจัดการคุกคามต่อสันติภาพ
|
3.
|
หลักเอกภาพระหว่างมหาอำนาจ ซึ่งได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ
ฝรั่งเศษ รัสเซีย และ จีน
|
4.
|
หลังการไม่ใช้กำลัง และ การระงับกรณีพิพาทโดยสันติวิธี
|
5.
|
หลักความเป็นสากลขององค์การ เปิดกว้างแก่รัฐที่รักสันติทั้งปวง
|
6.
|
หลักการเคารพเขตอำนาจศาลภายใน ปัญหาใดที่ประเทศสมาชิกอ้างว่าเป็นกิจการภายใน
สหประชาชาติจะไม่มีสิทธิหรืออำนาจเข้าแทรกแซง
|
|
|
|
|
|
|
องค์กรหลังขององค์การสหประชาชาติ
|
|
|
สหประชาชาติมีการดำเนินงานเกือบทั่งทั้งโลกโดยผ่านหน่วยงานหลัก 6 องค์กร ซึ่งมี
|
|
|
1.
|
สมัชชา สมัชชาเป็นที่รวมของประเทศสมาชิกทั้งหมดของสหประชาชาติ ซึ่งทุกประเทศมีสิทธิออกเสียงได้
1 เสียง มีหน้าที่พิจารณาและให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ ภายในกรอบของกฎบัตรสหประชาชาติ
แม้ว่าสมัชชากำหนดเป้าหมายและกิจกรรมเพื่อการพัฒนาต่างๆ เรียกร้องให้มีการประชุมระดับโลกในหัวข้อสำคัญๆ
และกำหนดปีสากลเพื่อเน้นความสนใจในประเด็นที่สำคัญๆ ของโลก สมัชชามีการประชุมสมัยสามัญปีละครั้ง
การลงคะแนนเสียงในเรื่องทั่วๆ ใช้เสียงข้างมากแต่ถ้าเป็นปัญหาสำคัญจะต้องได้คะแนน
2 ใน 3 ของสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม
|
2.
|
คณะรัฐมนตรีความมั่นคงมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการธำรงรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ
ประกอบด้วยสมาชิก 15 ประเทศ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ สมาชิกถาวร มี 5
ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศษ รัสเซีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และ
สมาชิกชั่วคราว มี 10 ประเทศ อยู่ในตำแหน่งครั้งละ 2
ปี ในกรณีประเทศสมาชิกถาวรประเทศใดประเทศหนึ่งออกเสียงคัดค้าน
ถือว่าเป็นการใช้สิทธิยับยั้ง ( Veto ) อันจะมีผลทำให้เรื่องนั้นๆ
ตกไปในยุคของสงครามเย็นการดำเนินงานของคณะมนตรีความมั่นคงประสบกับสภาวะชะงักงัน
เนื่องจากการใช้สิทธิยับยั้งของประเทศมหาอำนาจ
สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงไม่ว่าจะเป็นสมาชิกประจำหรือไม่ก็ตาม จะต้องงดเว้นออกเสียง
เมื่อมีการพิจารณาปัญหาข้อพิพาทที่ตนเป็นคู่กรณีด้วย
|
3.
|
คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม มีหน้าที่สำคัญ
คือ การส่งเสริมและจัดทำข้อเสนอแนะกิจกรรม ที่มุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างประเทศทางด้านเศรษฐกิจและสังคม
รวมถึงเรื่องการค้า การขนส่ง การพัฒนาอุตสาหกรรม การพัฒนาเศรษฐกิจ
ประชากรและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของมนุษย์ คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมประกอบด้วยสมาชิก
54 ประเทศ อยู่ในตำแหน่งคราวละ 3 ปี การลงคะแนนเสียงใช้คะแนนเสียงข้างมาก
ภายใต้คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม ประกอบด้วยคณะกรรมาธิการประจำภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเซียและแปซิฟิก
( The Economic and Social Commission for Asia and The Pacific :
ESCAP ) สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร
|
4.
|
คณะมนตรีภาวะทรัสตี ประกอบด้วย จีน
ฝรั่งเศษ รัสเซีย อังกฤษ และ สหรัฐอเมริกา มีหน้าที่ดูแลดินแดนในภาวะทรัสตีที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ
รับผิดชอบอยู่เพื่อให้มีการดำเนินงานเป็นขั้นตอนอันจะนำไปสู่การปกครองตนเอง หรือการได้รับเอกราช
เดิมดินแดนในภาวะทรัสตีมี 11 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกา และมหาสมุทรแปซิฟิก
ซึ่งได้รับเอกราชไปหมดแล้ว ปาเลา ( Palau ) เป็นดินแดนในภาวะทรัสตีแห่งสุดท้าย
เดิมอยู่ในความดูแลของสหรัฐอเมริกาได้รับเอกราชเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1994
ส่งผลให้คณะมนตรีภาวะทรัสตีหยุดการปฎิบัติงานอย่างเป็นทางการและจะประชุมเฉพาะเรื่องพิเศษตามความจำเป็น
|
5.
|
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ “ ศาลโลก “ ตั้งอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นองค์การตุลาการที่สำคัญของสหประชาชาติ
ประกิบด้วยผู้พิพากษา จำนวน 15 นาย อยู่ในตำแหน่งคราวละ
9 ปี คู่ความที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาลได้จะต้องเป็นรัฐคู่กรณีซึ่งเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ
ถ้ามิใช่สมาชิกจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมัชชา เอกชน
จะนำคดีมาสู่ศาลนี้ไม่ได้
|
6.
|
สำนักเลขาธิการ ทำหน้าที่บริหารงานของสหประชาชาติภายใต้การนำของเลขาธิการสหประชาชาติเลือกตั้งโดยสมัชชาด้วยคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่าสองในสามทั้งนี้โดยคำแนะนำของคณะมนตรีความมั่นคง
เลขาธิการมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 5 ปี โดยหลักการเลขาธิการจะมาจากประเทศที่เป็นกลางหรือไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
หร้าที่สำคัญของเลขาธิการ คือ การรายงานสถานการณ์ระหว่างประเทศที่กระทบต่อความมั่นคงระหว่างประเทศให้คณะมนตรีความมั่นคงทราบ
และ ทำหน้าที่ทางการทูตของสหประชาชาติ
|
|
ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งองค์การสหประชาชาติมาจนถึงปัจจุบันมีผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ
ดังนี้
1.) นาย ทริกเว ลี ( Trygve Lie ) จาก
ประเทศนอร์เวย์ ( ค.ศ. 1946 – 1953 )
2.) นาย ดั๊ก ฮัมมาร์โชลด์ ( Dag Hammarskjold ) จาก ประเทศสวีเดน ( ค.ศ. 1953 – 1961 )
3.) นาย อู ถั่น ( U Thant ) จาก
ประเทศพม่า ( ค.ศ. 1961 – 1971 )
4.) นาย คูร์ต วอลด์ไฮม์ ( Kurt Waldheim ) จาก ประเทศออสเตรีย ( ค.ศ. 1972 – 1981 )
5.) นาย ฮาเวียร์ เปเรส เดอ เควยาร์ ( Javier Perez de
Cuellar ) จาก ประเทศเปรู ( ค.ศ. 1982 – 1991 )
6.) นาย บรูโทรส บรูโทรส กาลี ( Boutros Boutros Ghali
) จาก ประเทศอียิปต์ ( ค.ศ. 1992 – 1996 )
|
7.
|
นาย โคฟี อันนัน ( Kofi Annan ) จาก ประเทศกานา
เข้ารับตำแหน่ง วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1997 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2001 ต่อมาได้รับเลือกเป็นเลขาธิการสหประชาชาติสมัยที่ 2 ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2002
|
|
|
|
นอกจากนั้นยังมีองค์กรพิเศษที่ทำงานในฐานะองค์การสหประชาชาติอีกหลายองค์การ
เช่น ทบวงการชำนาญพิเศษแห่งสหประชาชาติ ( Specialized Agencies ) ซึ่งเป็นองค์การอิสระ
และ ปฎิบัติงานเฉพาะด้าน ทำหน้าที่ในการส่งเสริมเศรษฐกิจ และ สังคมของประเทศสมาชิกซึ่งจัดตั้งขึ้นตามความตกลงของรัฐบาล
ในปัจจุบันมี 16 องค์การ ได้แก่
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ( ILO ) องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ
( FAO ) องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
( UNESCO ) องค์การบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO
) ธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะและพัฒนาหรือธนาคารโลก ( IBRD/World
Bank ) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF ) องค์การอนามัยโลก ( WHO ) สหภาพไปรษณีย์สากล ( UPU
) สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประทศ ( ITU ) สมาคมพัฒนาประเทศระหว่างประเทศ
( IDA ) บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ ( IFC ) องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ( WMO ) องค์การกิจการทางทะเลระหว่างประเทศ
( IMO ) องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ( WIPO) กองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาเกษตรกรรม ( IFAD ) องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ ( UNIDO ) และมีองค์กรอิสระซึ่งมิใช่ทบวงชำนัญพิเศษ ได้แก่ ข้อตกลงทั่วไปว่าด้วยการพิกัดอัตราภาษีศุลกากรและการค้า
( GATT ) และ สำนักงานพลังปรมาณูระหว่างประเทศ ( IAEA
) เป็นต้น
|
|
|
ในปัจจุบันองค์การสหประชาชาติ
ได้จัดตั้งทบวงการชำนัญพิเศษของสหประชาชาติเพื่อปฎิบัติงานอันใดอันหนึ่งหรือเฉพาะด้าน
ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการส่งเสริมทางเศรษฐกิจ สังคม และ การศึกษา
ในสหประชาชาติ ( UNHCR ) ซึ่งได้ดำเนินการในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติมากมาย ทั้งด้านสังคม
เศรษฐกิจ และ การเมือง องค์การสหประชาชาติ จึงเป็นองค์การหลักที่มีความสำคัญ
|
|
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น